ประวัติความเป็นมาของตำบลกาลอ
กาลอ เป็นชุมชนเก่าแก่มีอายุราว 300 ปี
เป็นชุมชนแห่งแรกของอำเภอรามัน มีการตั้งถิ่นฐานมานานก่อนสมัยกษัตริย์อิสลามปกครอง
ที่ตั้งชุมชนดั้งเดิมอยู่บริเวณที่เป็นกุโบร์ (สุสาน) ในปัจจุบัน คือบ้านทำนบ
หมู่ที่ 3 ตำบลกาลอ ที่มาของชื่อกาลอ มาจากข้อสันนิษฐาน 3
ข้อ คือ 1. มาจากไม้กาลอหรือไม้ไข่เขียว
ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอยู่มากมายบนเทือกเขากาลอ 2. มาจากคำว่า
"ตือลอกลอ" หรือแมงป่อง เป็นสัตว์ร้ายในนิทานปรัมปรา 3. มาจากคำว่า "สะดียอกาลอ" ซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้าเมืองโกตาบารูใช้เป็นสถานที่เลี้ยงช้าง
และเป็นที่เก็บสรรพาวุธ ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านกาลอในปัจจุบัน
สภาพทั่วไปของตำบล :
ตำบลกาลอมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 36.94 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศ
มีทั้งที่เป็นภูเขา ที่ราบ สูง
และที่ราบลุ่ม แบ่งการปกครองออกเป็น 4 หมู่บ้าน ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
พื้นที่:
ตำบลกาลอมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 36.94
ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศ มีทั้งที่เป็นภูเขา ที่ราบสูง
และที่ราบลุ่ม แบ่งการปกครองออกเป็น 4 หมู่บ้าน
ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
อาณาเขตตำบล :
ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลยะต๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
ทิศใต้ ติดกับ นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันออก ติดกับ นิคมสร้างตนเองธนูสิน อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส
ทิศตะวันตก ติดกับ ตำบลบือมัง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
จำนวนประชากรของตำจำนวนประชากรในเขต อบต. 2,765
คน และจำนวนหลังคาเรือน 552 หลังคาเรือน
ข้อมูลอาชีพของตำบล :
อาชีพลัก ได้แก่ การทำนา ทำสวน
อาชีพเสริม ได้แก่ การเลี้ยงโค เลี้ยงแพะ เลี้ยงเป็ดไก่ เลี้ยงปลาในกระชัง
และเย็บผ้า
ข้อมูลสถานที่สำคัญของตำบล :
1. สวนทุเรียนโบราณ 300 ปี่้
2. น้ำตกลาตอมูซอ
3. น้ำตกไอร์ตาโลร์
4. ดอกบัวผุดใหญ่ที่สุดในโลก
เอกลักษ์ของตำบล กาลอ
ดูวิดีโอดอกบัวผุดคลิกที่นี้
เป็นป่าแบบป่าดิบชื้น
ทำให้มีพืชบางชนิดที่หายากอย่าง ดอกบัวผุด กล้วยไม้หลายชนิด
และยังมีน้ำกที่มีชื่อเสียงใน อ.รามัน
ดอกบัวผูดบล :
บัวผุดหรือชื่อท้องถิ่นว่า ดอกบัวตูม - บัวบาน
หรือบูงอเกะมอ เป็นพืชที่อยู่ในตระกูล Rafflesia จัดเป็นดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและหายากที่สุด
มักพบในป่าดิบชื้นเขตร้อน สามารถพบได้ในบริเวณทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย
ประเทศไทยในจังหวัดยะลา สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์
และบางส่วนของประเทศพม่าในระดับความสูงตั้งแต่ 200 - 1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลRafflesia
เป็นชื่อของตระกูลพืชชนิดหนึ่ง
ชื่อตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ประกาศการพบเป็นครั้งแรกคือ SirThomas
Raffle ได้สำรวจพบดอกไม้ยักษ์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 97 เซนติเมตร
ในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา เมื่อปี พ.ศ. 2361
สำหรับบัวผุดชนิดนี้มีชื่อทางวิทยาศาตร์ว่า "Rafflesia Kerrii" ให้ชื่อตามผู้ประกาศการค้นพบคนแรก (ไม่นับคนท้องถิ่น) คือ นายแพทย์ A.F.G.
Kerr ชาวอังกฤษ พบในป่าบริเวณอำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
สำหรับเรื่องราวต้นกำเนิดของดอกบัวผุด
เพียงพอว่าเป็นพืชกาฝากชนิดหนึ่งไม่มีราก ไม่มีใบ และกิ่งก้าน หากแต่อาศัยเถาวัลย์
"ย่านไก่ต้ม" เฉพาะที่เลื้อยอยู่ตามพื้นดินเท่านั้น
ผลิดอกออกมาและดูดน้ำ อาหารหล่อเลี้ยงตัวเองตั้งแต่แรกเริ่มผลิดอกเป็นตุ่มเล็กจนใหญ่เป็นหัว
แล้วผลิบานเป็นดอกไม้มหึมา จากนั้น 5 - 7 วัน
จึงจะเน่าและเหี่ยวลงไป นับจากแรกเริ่มจึงถึงสิ้นสุดวงจรกินเวลาประมาณ 9 เดือน
พบดอกบัวผุด
ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นสมุนไพร ผลสืบเนื่องจากสถาบันศิลปะและวัฒนธรรม
ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี
จัดสัมมนาและเดินป่าศึกษาสมุนไพรในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม - 9 กันยายน 2539
การอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยด้านหมอและยาพื้นบ้าน
ซึ่งถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่จะสะสมมาตั้งแต่อดีตเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า
มีประโยชน์ต่อมวลมนุษย์เป็นอย่างยิ่งและการที่จะฟื้นฟูภูมิปัญญาด้านหมอและยาพื้นบ้านภาคใต้ให้กลับมาอีกนั้น
มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาข้อมูลด้านสมุนไพรในสภาพปัจจุบัน
ดังนั้นมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
จึงได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี
จัดโครงการสัมมนาหาข้อมูลทั้งระบบในเรื่องป่าสมุนไพรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม - กันยายน 2539 โดยมีหมอพื้นบ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
และจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี รวมประมาณ 50 คน
เข้าร่วมสัมมนา
สำหรับการเดินป่าศึกษาหาสมุนไพรในครั้งนี้กลุ่มหมอพื้นบ้านผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เลือกพื้นที่เขาบูบุฮ์
สันเขาบูโยะ เทือกเขาน้ำค้าง บ้านบาแฮ ตำบลกาลอ - บือมัง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
ซึ่งสภาพพื้นที่บริเวณนี้เป็นเนินเขา พืชส่วนใหญ่เป็นต้นยางพารา
นายน้ำ สุขอนันต์
ผู้อำนวยการสถาบันศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
เปิดเผยถึงการสัมมนาและเดินป่าศึกษาสมุนไพรในครั้งนี้ว่า
ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้สำรวจพบสมุนไพรไม่น้อยกว่า 180 ชนิด และในจำนวนนี้พบ "ดอกบัวผุด" บริเวณป่าดงดิบบนเขาสูง
มีทั้งดอกตูมและดอกบานผลิดอกออกมาจาก "ย่านไก่ต้ม"
ซึ่งเป็นไม้เถาชนิดหนึ่งที่เลื้อยติดพื้นดินด้วยความเป็นปริศนาในแง่การแพร่พันธุ์และการดำรงอยู่ในสภาพที่สมดุลแห่งธรรมชาติ
จึงได้เก็บตัวอย่างเพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาในทางด้านพฤกษศาสตร์ ชีววิทยา
และสรรพคุณทางยาสมุนไพรต่อไปน้ำตกไอตาโล น้ำตกไอตาโล
ถือว่าเป็นสถาที่ท่องเที่ยวแห่งหน่งที่มีชื่อเสียงใน อ.รามัน
น้ำตกไอร์ตาโลมีความสวยงาม ห่างจากถนนสายใหญ่ประมาณ 3 กิโลเมตร
สามารถเดินทางด้วยรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไปได้ช่วงหนึ่งและต้องเดินทางด้วยเท้าเข้าไปยังตัวน้ำตกอีกประมาณ
250 เมตร
บรรยากาศน้ำตกไอร์ตาโล
น้ำตกไอตาโล มีหลายชั้น
ในแต่ละชั้นก็มีวามสวยงามที่แตกต่างกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น